อยากเก็บตังค์ให้ได้ แต่ก็ “เก็บเงินไม่อยู่ซักที” สิ้นเดือนทีไร เงินก็หายวับไปกับตา หรือบางทีก็มีเรื่องให้ต้องใช้เงินตลอด ไม่ว่าจะค่ากิน ค่าเที่ยว ค่าช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ค่าเทอม!
ไม่ต้องกังวลไปค่ะ! เพราะเรามีเคล็ดลับดีๆ มาแชร์ รับรองว่าเก็บเงินได้แบบชิลๆ แถมยังได้ผลอีกด้วย ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเป็นนักเรียน วัยรุ่น หรือวัยทำงาน ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้แน่นอนค่ะ
10 วิธีเก็บเงินให้อยู่หมัด ใครว่าเก็บเงินเป็นเรื่องยาก!
1. เก็บก่อนใช้! เงินเดือนออกปุ๊บ เก็บปั๊บ
อันนี้เป็นวิธีคลาสสิคเลยค่ะ! หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังใหม่อยู่สำหรับบางคน ก็คือแทนที่จะรอให้สิ้นเดือนแล้วค่อยเก็บเงินที่เหลือ (ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่เหลือ!) ให้แบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้ทันทีที่เงินเดือนออก หรือได้รับรายได้อื่นๆ ค่ะ
ตัวอย่าง: สมมติว่าเราได้เงินเดือน 15,000 บาท เราอาจจะตั้งเป้าเก็บ 10% ก็คือ 1,500 บาท พอเงินเดือนออกปุ๊บ ก็โอนเข้าบัญชีเงินเก็บเลยทันที ที่เหลือ 13,500 บาท ก็ค่อยเอามาใช้จ่ายค่ะ
2. ตั้งเป้าหมายให้ชัด! จะได้มีแรงฮึด
ลองนึกภาพตัวเองกำลังไปเที่ยวทะเล หรือซื้อของที่อยากได้สิคะ! ฟินสุดๆ ไปเลย การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการเก็บเงินมากขึ้นค่ะ
ตัวอย่าง: สมมติว่าเราอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น เราอาจจะตั้งเป้าเก็บเงิน 30,000 บาท ภายใน 1 ปี พอมีเป้าหมายแล้ว เราก็จะรู้ว่าต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ และจะได้วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นค่ะ
3. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง!
บางทีเราก็ไม่รู้ตัวหรอกค่ะว่าเงินหายไปไหนหมด ลองทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายดู จะได้เห็นภาพรวมว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ค่ะ
ตัวอย่าง: สมมติว่าเราจดบัญชีแล้วพบว่า เราใช้เงินซื้อกาแฟวันละ 50 บาท เดือนนึงก็ปาไป 1,500 บาทแล้วนะ! ถ้าเราลดการซื้อกาแฟลง หรือเปลี่ยนมาชงเอง ก็จะประหยัดเงินได้เยอะเลยค่ะ
4. บอกลาค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย! เก็บเล็กผสมน้อย ก็เป็นกอบเป็นกำ
ลองสำรวจค่าใช้จ่ายของตัวเองดู อาจจะพบว่ามีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เราสามารถลด หรือเลิกได้ เช่น ค่าสมัครสมาชิกฟิตเนสที่ไม่ค่อยได้ไป หรือค่าบริการสตรีมมิ่งหนังที่ไม่ค่อยได้ดูค่ะ
ตัวอย่าง: ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนที่ติดซีรีส์มาก สมัครทั้ง Netflix, VIU, Disney+ ไว้หมดเลย สิ้นเดือนทีไรก็จ่ายค่าสมาชิกไปหลายร้อย หากลองคิดดูดีๆ ก็อาจจะพบว่าจริงๆ แล้วดูไม่ครบทุกอัน เลยยกเลิกบางอันไป ตอนนี้ก็ประหยัดเงินได้เยอะเลยค่ะ
5. มองหางานเสริม เพิ่มรายได้ เพิ่มเงินเก็บ
ถ้ามีเวลาว่าง ลองหางานพิเศษทำดูค่ะ อาจจะเป็นงานพาร์ทไทม์ งาน freelance หรืองานออนไลน์ก็ได้ รายได้เสริมจะช่วยให้เรามีเงินเก็บเพิ่มขึ้น แถมยังได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อีกด้วยนะคะ
ตัวอย่าง: ถ้าเพื่อนๆ มีความรู้หรือทักษะบางอย่าง อาจลองพิจารณาการรับสอนพิเศษเด็กๆ แถวบ้าน พอได้เงินมา ก็แบ่งไว้ใช้จ่ายส่วนนึง และเก็บไว้อีกส่วนนึง เป็นการหารายได้พิเศษที่สนุก แถมยังได้ฝึกทักษะการสอนไปในตัวด้วยค่ะ
6. เก็บเงินตามวันที่ ท้าทายตัวเองสุดๆ
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทาย! เราจะเก็บเงินตามจำนวนวันที่ของแต่ละวัน เช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท ไปเรื่อยๆ จนครบเดือน วิธีนี้จะช่วยให้เรามีวินัยในการเก็บเงิน และเห็นเงินเก็บเพิ่มขึ้นทุกวันค่ะ
ตัวอย่าง: เราเคยลองทำตามวิธีนี้ดู สนุกดีนะ ได้ลุ้นว่าสิ้นเดือนจะเก็บได้เท่าไหร่ แถมยังได้ฝึกวินัยในการเก็บเงินไปในตัวด้วยค่ะ
7. ใช้แอปฯ ช่วยเก็บเงิน สะดวก สบาย แถมยังสนุกอีกต่างหาก
เดี๋ยวนี้มีแอปพลิเคชันมากมายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราเก็บเงินได้ง่ายขึ้น ลองหาแอปที่ถูกใจเราดู อาจจะมีฟีเจอร์เก็บเงินอัตโนมัติ หรือเกมเก็บเงินที่ทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องสนุกก็ได้นะคะ
ตัวอย่าง: สมมติว่าเพื่อนๆ กำลังอยากเก็บเงินซื้อโทรศัพท์ใหม่ราคา 20,000 บาท อาจจะลองใช้แอปฯ ที่มีฟีเจอร์เก็บเงินอัตโนมัติทุกครั้งที่เราทำธุรกรรม เช่น เราตั้งค่าให้แอปเก็บเงินให้ 50 บาท ทุกครั้งที่เราซื้อของออนไลน์ หรือทุกครั้งที่เราจ่ายบิลค่าโทรศัพท์มือถือ แม้จะเป็นเงินจำนวนเล็กน้อยในแต่ละครั้ง แต่ถ้าทำบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เราเก็บเงินได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพยายามมากนักค่ะ
หรือใช้แอปที่มีฟีเจอร์ปัดเศษทศนิยม เวลาเราใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต แอปก็จะปัดเศษเงินทศนิยมขึ้น แล้วเอาส่วนต่างไปเก็บให้เรา เป็นวิธีเก็บเงินแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ
8. เปลี่ยนเงินเป็นสินทรัพย์ ให้เงินทำงานแทนเรา
เมื่อเรามีเงินเก็บจำนวนหนึ่งแล้ว ลองพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้เรา เช่น หุ้น กองทุนรวม หรือทองคำ การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ก็เป็นโอกาสที่จะทำให้เงินของเรางอกเงยในระยะยาวค่ะ
ตัวอย่าง: ในปัจจุบันมีแอปการเงินมากมายที่จะช่วยให้เราเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมได้ง่ายๆ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาท แม้ว่าผลตอบแทนจะไม่ได้มากมายในระยะสั้น แต่ถ้าเราลงทุนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ก็อาจจะช่วยให้เงินเก็บของเรางอกเงยขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจเลยล่ะค่ะ
9. ให้รางวัลตัวเองบ้าง! อย่าเครียดกับการเก็บเงินจนเกินไป
การเก็บเงินไม่ควรเป็นเรื่องเครียดหรือกดดันตัวเองจนเกินไป อย่าลืมให้รางวัลตัวเองบ้าง เมื่อเราทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การให้รางวัลตัวเองจะช่วยให้เรามีกำลังใจในการเก็บเงินต่อไปค่ะ
ตัวอย่าง: สมมติว่าเราตั้งเป้าเก็บเงินซื้อกระเป๋าใบใหม่ พอเก็บเงินได้ครบตามเป้าแล้ว ก็ซื้อกระเป๋าใบนั้นให้ตัวเองเป็นรางวัล ก็จะทำให้เรารู้สึกดี และมีกำลังใจในการเก็บเงินต่อไปค่ะ
10. เริ่มเลย! อย่ารอช้า
ไม่มีเวลาไหนเหมาะสมในการเริ่มต้นเก็บเงินไปกว่าวันนี้อีกแล้ว! เริ่มต้นทีละเล็กทีละน้อย และค่อยๆ เพิ่มจำนวนเงินเก็บเมื่อเรามีรายได้มากขึ้น อย่าลืมว่าวินัยและความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการเก็บเงินนะคะ
หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ การเก็บเงินอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป ถ้าเรามีวินัยและตั้งใจจริง สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเก็บเงินได้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้นะคะ!
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ