Self Esteem คืออะไร? ทำไมเราถึงควรให้ความสำคัญกับมัน? ถ้าเพื่อนๆ กำลังรู้สึกสับสน หรืออยากทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้มากขึ้น บทความนี้เหมาะกับเพื่อนๆ มากเลยค่ะ เพราะเราจะมาสำรวจความหมายของ Self-Esteem สัญญาณของ Self-Esteem ต่ำ สาเหตุ รวมถึงวิธีเพิ่ม Self-Esteem ให้แข็งแกร่ง เพื่อให้เพื่อนๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและมีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเอง
Self Esteem คืออะไร? มาทำความรู้จักและเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองกันเถอะ!
Self Esteem แปลว่า “ความนับถือตัวเอง” หรือ “การเห็นคุณค่าในตัวเอง” หมายถึง ความรู้สึกและทัศนคติเชิงบวกที่เรามีต่อตนเอง ซึ่งรวมถึงการยอมรับข้อดีข้อเสีย การเชื่อมั่นในความสามารถ และการรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและคู่ควรกับสิ่งดี ๆ ในชีวิต
ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ ไม่ดีพอ หรือไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ ที่เข้ามาในชีวิต? นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า Self-Esteem หรือความนับถือตัวเองของเพื่อนๆ กำลังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะหลายคนก็เคยรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
Self-Esteem คืออะไรกันแน่?
พูดแบบเข้าใจง่ายๆ เลย Self-Esteem ก็คือ “ความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง” ค่ะ มันคือความรู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญ เป็นคนที่มีความสามารถ และคู่ควรกับความรักและความสุข
แล้ว Self-Esteem มันสำคัญยังไง?
ลองนึกภาพตามนะคะ ถ้าเพื่อนๆ มีความมั่นใจในตัวเอง เพื่อนๆ ก็จะกล้าแสดงออก กล้าทำสิ่งใหม่ๆ และพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิต แต่ถ้า Self-Esteem ของเพื่อนๆ ต่ำ เพื่อนๆ อาจจะลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอที่จะประสบความสำเร็จ
Self-Esteem ต่ำ กับ Self-Esteem สูง ต่างกันยังไง?
ยกตัวอย่างเช่น ในที่ทำงาน เราอาจจะเคยเห็นเพื่อนร่วมงานที่ไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม กลัวการถูกวิจารณ์ หรือไม่กล้ายื่นมือรับโปรเจกต์ใหม่ๆ เพราะไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง นี่คือตัวอย่างของคนที่มี Self-Esteem ต่ำ ในทางกลับกัน คนที่มี Self-Esteem สูง มักจะเป็นคนที่กล้าแสดงออก กล้าเสนอไอเดียใหม่ๆ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทาย พวกเขาก็ยังมองเห็นคุณค่าในตัวเอง และเชื่อมั่นว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้
เห็นไหมคะว่า Self-Esteem สามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ถ้าเรามี Self-Esteem ต่ำ เราก็อาจจะพลาดโอกาสดีๆ หรือไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองออกมาได้ แต่ถ้าเรามี Self-Esteem สูง เราก็จะกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง และไขว่คว้าโอกาสต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ทำให้เรามีความสุขและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
ต่อไปเราจะมาดูกันว่า Self-Esteem ต่ำมีสัญญาณอะไรบ้าง อะไรเป็นสาเหตุ และที่สำคัญที่สุด เราจะมาเรียนรู้วิธีเพิ่ม Self-Esteem ให้ตัวเองรู้สึกดีและมั่นใจมากขึ้นกันค่ะ!
สัญญาณเตือนของ Self-Esteem ต่ำ มีอะไรบ้างนะ?
บางครั้ง Self-Esteem ต่ำก็เหมือนหวัดน่ะค่ะ แรกๆ อาจจะไม่แสดงอาการชัดเจน แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ ก็อาจจะลุกลามจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น มาลองเช็คกันหน่อยดีกว่า ว่าเพื่อนๆ กำลังมีสัญญาณเตือนเหล่านี้หรือเปล่า
- กลัวการวิจารณ์: เวลาที่ใครพูดถึงเราในแง่ลบ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็รู้สึกเหมือนโดนโจมตีอย่างหนัก รู้สึกเจ็บปวดและเก็บมาคิดมาก
- ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น: รู้สึกว่าความคิดเห็นของตัวเองไม่มีค่า ไม่กล้าพูดในที่สาธารณะ หรือแม้แต่ในกลุ่มเพื่อนสนิท
- เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอดเวลา: ส่องโซเชียลมีเดียทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ไม่สวย ไม่รวย ไม่เก่งเท่าคนอื่นเขา
- ไม่กล้าปฏิเสธ: กลัวการทำให้คนอื่นผิดหวัง จึงมักจะตอบตกลงไปก่อน แม้ว่าในใจจะไม่อยากทำก็ตาม
- คิดลบเกี่ยวกับตัวเอง: มักจะพูดกับตัวเองในแง่ลบ เช่น “ฉันมันโง่” “ฉันมันไม่สวย” “ฉันมันไม่มีค่า”
ถ้าเพื่อนๆ มีอาการเหล่านี้หลายข้อ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า Self-Esteem ของเพื่อนๆ กำลังอยู่ในระดับต่ำ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะ Self-Esteem เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้ เราจะมาเรียนรู้วิธีเพิ่ม Self-Esteem ไปด้วยกันค่ะ
แล้วอะไรล่ะ ที่เป็นสาเหตุของ Self-Esteem ต่ำ?
เหมือนกับต้นไม้ที่ต้องการดิน น้ำ และแสงแดดที่ดี เพื่อที่จะเติบโตอย่างแข็งแรง Self-Esteem ของเราก็เช่นกันค่ะ มันต้องการการหล่อเลี้ยงและดูแลเอาใจใส่ แต่บางครั้ง สิ่งต่างๆ รอบตัวเรากลับกลายเป็นตัวขัดขวางการเติบโตนั้น มาดูกันว่าอะไรบ้างที่อาจเป็นสาเหตุของ Self-Esteem ต่ำ
- ประสบการณ์ในวัยเด็ก: คำพูดหรือการกระทำของคนรอบข้างในวัยเด็ก โดยเฉพาะจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง มีอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้าง Self-Esteem ของเรา ถ้าเราเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคำตำหนิ การเปรียบเทียบ หรือการถูกละเลย ก็อาจทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่ได้รับการยอมรับ
- ความล้มเหลวหรือการถูกปฏิเสธ: ไม่มีใครชอบความล้มเหลวหรือการถูกปฏิเสธหรอกค่ะ แต่บางครั้งประสบการณ์เหล่านี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ และถ้าเราไม่สามารถรับมือกับมันได้อย่างเหมาะสม มันก็อาจจะบั่นทอน Self-Esteem ของเราลงได้
- สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ: การอยู่ท่ามกลางคนที่ชอบวิจารณ์ นินทา หรือพูดจาทำร้ายจิตใจเรา ก็เหมือนกับการอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยควันพิษ มันทำร้ายเราทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง
- โรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล: บางครั้ง Self-Esteem ต่ำก็อาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล ซึ่งส่งผลให้เรามองโลกในแง่ลบและรู้สึกแย่กับตัวเอง
Self Esteem มีอะไรบ้าง? มาทำความรู้จักองค์ประกอบของความมั่นใจในตัวเอง
ถ้าเปรียบกับ Self-Esteem เป็นบ้าน องค์ประกอบต่างๆ ของมันก็คงเหมือนกับเสาเข็ม ฐานราก และโครงสร้างที่แข็งแรง ซึ่งคอยค้ำจุนให้บ้านหลังนั้นมั่นคง มาดูกันว่า Self-Esteem ของเรามีอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง
- ความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง: นี่คือพื้นฐานสำคัญของ Self-Esteem เลยค่ะ มันคือความรู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญ มีคุณค่า และคู่ควรกับสิ่งดี ๆ ในชีวิต
- ความรู้สึกภูมิใจในตัวเอง: ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือความสามารถพิเศษที่เรามี ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เราควรภูมิใจ และความภูมิใจนี้เองที่จะช่วยเสริมสร้าง Self-Esteem ของเราให้แข็งแกร่งขึ้น
- ความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง: เราทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป และการที่เราเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง จะทำให้เรากล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ และไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย
- การยอมรับข้อดีและข้อเสียของตัวเอง: ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์หรอกค่ะ เราทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การยอมรับและเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เรามีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และไม่ต้องพยายามเป็นคนที่เราไม่ใช่
- การเคารพตัวเอง: การเคารพตัวเองหมายถึงการให้เกียรติตัวเอง ไม่ทำร้ายตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ และการเลือกที่จะปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรักและความเมตตา
เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้แข็งแรง Self-Esteem ของเราก็จะมั่นคงตามไปด้วย ทำให้เรากลายเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และมีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเอง
แล้วเราจะทำยังไงให้ Self-Esteem ของเราแข็งแรงขึ้นล่ะ? มาดูกันในหัวข้อต่อไปเลยค่ะ
มาเพิ่ม Self-Esteem ให้แข็งแกร่ง!
ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่เราจะมาเรียนรู้วิธีเพิ่ม Self-Esteem ให้ตัวเองรู้สึกดีและมั่นใจมากขึ้น! เหมือนกับการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ การเพิ่ม Self-Esteem ก็ต้องอาศัยการฝึกฝนและความสม่ำเสมอเช่นกัน มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่เราสามารถทำได้
- ฝึกยอมรับและรักตัวเอง: เริ่มจากการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง มองเห็นข้อดีของตัวเอง และยอมรับในสิ่งที่เราเป็น แม้ว่าเราจะไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ก็ตาม การพูดกับตัวเองในแง่บวก เช่น “ฉันเก่งนะ” “ฉันทำได้” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
- ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ และทำให้สำเร็จ: การตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้เรารู้สึกท้อแท้ ลองเริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำได้ง่าย ๆ ก่อน เมื่อเราทำสำเร็จ ความรู้สึกภูมิใจในตัวเองก็จะเพิ่มขึ้น และเป็นแรงผลักดันให้เราไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นต่อไป
- หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น: จำไว้ว่าทุกคนมีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมีแต่จะทำให้เรารู้สึกแย่ ลองโฟกัสที่การพัฒนาตัวเอง และเปรียบเทียบตัวเองกับตัวเองในอดีตจะดีกว่า
- เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ: การปฏิเสธไม่ใช่เรื่องเสียหายนะคะ ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ไหว หรือไม่อยากทำอะไร ก็สามารถปฏิเสธได้อย่างสุภาพ การกล้าปฏิเสธจะช่วยให้เรารู้สึกว่าเรามีคุณค่า และไม่ต้องฝืนตัวเองเพื่อเอาใจคนอื่น
- ล้อมรอบตัวเองด้วยคนคิดบวก: คนที่เราอยู่ด้วยมีอิทธิพลต่อความคิดและความรู้สึกของเรามาก ลองเลือกคบเพื่อนหรือคนที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจเรา คนที่มองเห็นคุณค่าในตัวเรา และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเราทั้งในวันที่ดีและวันที่ร้าย
- ดูแลสุขภาพกายและใจ: การออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และทำกิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุข ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามีสุขภาพกายและใจที่ดี ซึ่งส่งผลต่อ Self-Esteem ของเราด้วย
การเพิ่ม Self-Esteem อาจต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่เชื่อเถอะค่ะว่ามันคุ้มค่า เพราะเมื่อเรามี Self-Esteem ที่แข็งแกร่ง เราจะมีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และพร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่
มาทดสอบ Self-Esteem ของเรากันหน่อยดีกว่า ว่าตอนนี้อยู่ในระดับไหน?
Self Esteem แบบทดสอบ มาเช็คระดับความมั่นใจในตัวเองของเรากัน!
อยากรู้ไหมคะ ว่าตอนนี้ Self-Esteem ของเพื่อนๆ อยู่ในระดับไหน? มาลองทำแบบทดสอบง่ายๆ นี้กันค่ะ
คำแนะนำ: อ่านข้อความแต่ละข้อ แล้วตอบว่าแต่ละข้อตรงกับความรู้สึกของเพื่อนๆ มากน้อยแค่ไหน โดยเลือกตอบดังนี้
- 4 คะแนน: ตรงกับความรู้สึกของฉันมากที่สุด
- 3 คะแนน: ตรงกับความรู้สึกของฉันมาก
- 2 คะแนน: ตรงกับความรู้สึกของฉันเล็กน้อย
- 1 คะแนน: ไม่ตรงกับความรู้สึกของฉันเลย
ข้อความ:
- ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนมีคุณค่า อย่างน้อยก็เท่าเทียมกับคนอื่นๆ
- ฉันรู้สึกว่าฉันมีข้อดีอยู่เยอะมาก
- โดยรวมแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนล้มเหลว
- ฉันมีความสามารถที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนกับคนส่วนใหญ่
- ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้น่าภูมิใจเลย
- ฉันมีทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง
การประเมินผล:
- 19 – 24 คะแนน: Self-Esteem ของเพื่อนๆ อยู่ในระดับสูง ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ!
- 13 – 18 คะแนน: Self-Esteem ของเพื่อนๆ อยู่ในระดับปานกลาง ยังมีพื้นที่ให้พัฒนาตัวเองต่อไปได้อีกนะคะ
- 6 – 12 คะแนน: Self-Esteem ของเพื่อนๆ อยู่ในระดับต่ำ ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปปรับใช้ดูนะคะ เพื่อนๆ จะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นแน่นอนค่ะ
จำไว้นะคะ: แบบทดสอบนี้เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าเพื่อนๆ รู้สึกกังวลหรือไม่สบายใจเกี่ยวกับ Self-Esteem ของตัวเอง การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีค่ะ
แหล่งทำแบบทดสอบ Self-Esteem อื่นๆ:
- Rosenberg Self-Esteem Scale: เป็นแบบทดสอบที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในการวิจัย เพื่อนๆ สามารถค้นหาและทำแบบทดสอบนี้ได้ทางออนไลน์หรือจะคลิกที่นี่เลยก็ได้นะคะ
- Coopersmith Self-Esteem Inventory: เป็นอีกหนึ่งแบบทดสอบที่ได้รับความนิยม ซึ่งออกแบบมาเพื่อประเมิน Self-Esteem ในด้านต่างๆ เช่น การยอมรับตัวเอง ความมั่นใจในสังคม และความรู้สึกมีคุณค่าในครอบครัว
ไม่ว่าผลการทดสอบจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ขอให้เพื่อนๆ จำไว้ว่า Self-Esteem เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้เสมอ และเราจะคอยเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ในทุกๆ ก้าวของการเดินทางนะคะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Self-Esteem
1. Self-Esteem ต่างจากความมั่นใจ (Confidence) ยังไง?
แม้ว่า Self-Esteem และ Confidence จะดูคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ค่ะ Self-Esteem คือความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเองโดยรวม ในขณะที่ Confidence คือความเชื่อมั่นในความสามารถเฉพาะด้าน เช่น เราอาจจะมั่นใจในการพูดต่อหน้าสาธารณะ (Confidence) แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกไม่ดีพอในเรื่องอื่นๆ (Self-Esteem ต่ำ)
2. Self-Esteem สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไหม?
แน่นอนค่ะ Self-Esteem ไม่ใช่สิ่งที่ตายตัว มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และสิ่งที่เราเผชิญในชีวิต ถ้าเราหมั่นดูแลและพัฒนาตัวเอง Self-Esteem ของเราก็จะแข็งแกร่งขึ้นได้ค่ะ
3. ทำไมการมี Self-Esteem สูงถึงสำคัญ?
Self-Esteem สูงช่วยให้เรามีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น กล้าที่จะทำตามความฝัน และพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในชีวิต นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิต ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลอีกด้วย
4. ถ้า Self-Esteem ต่ำมากๆ ควรทำอย่างไร?
ถ้าเพื่อนๆ รู้สึกว่า Self-Esteem ของตัวเองต่ำมากจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน การ seeking professional help หรือขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก็เป็นทางเลือกที่ดีนะคะ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือเพื่อนๆ ในการพัฒนา Self-Esteem ได้อย่างเหมาะสมค่ะ
5. มีวิธีเพิ่ม Self-Esteem แบบเร่งด่วนไหม?
การเพิ่ม Self-Esteem ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอค่ะ แต่มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองขึ้นได้ทันที เช่น การเขียนบันทึกข้อดีของตัวเอง การทำกิจกรรมที่ชอบ หรือการใช้เวลากับคนที่เรารักและรักเรา
อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปนะคะ ค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปทีละก้าว และให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ แล้วเพื่อนๆ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
สรุปทิ้งท้าย
การเพิ่ม Self-Esteem ให้กับตัวเองอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป บางวันเพื่อนๆ อาจจะรู้สึกดีกับตัวเอง บางวันก็อาจจะรู้สึกแย่บ้าง เป็นเรื่องปกติค่ะ อย่าเพิ่งท้อแท้หรือหมดกำลังใจไปเสียก่อน สิ่งสำคัญคือการไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เข้าใจตัวเอง และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
จำไว้ว่า Self-Esteem ไม่ใช่สิ่งที่สร้างกันข้ามคืน มันต้องใช้เวลา ความอดทน และความพยายาม แต่ทุกก้าวเล็กๆ ที่เพื่อนๆ เดินไปข้างหน้า ล้วนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ และเมื่อคุณมี Self-Esteem ที่แข็งแกร่ง คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มั่นใจ และเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่
สุดท้ายนี้ เราอยากให้เพื่อนๆ จำไว้ว่า คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว หากเพื่อนๆ กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการพัฒนา Self-Esteem อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตนะคะ
ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความสุขและมั่นใจในตัวเองนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ